Plant protein
ในปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาดูแลและใส่ใจรูปร่างกันมากขึ้น ทำให้ผู้คนเริ่มเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกินผักให้มากขึ้น เลือกรับประทานแต่ผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ งดอาหารแปรรูป หรือแม้กระทั่งการเลือกรับประทานโปรตีนมากขึ้น เนื่องจากโปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อทำให้รูปร่างดี กระชับ และสมส่วนแล้ว โปรตีนยังใช้เวลาในการย่อยสลายนาน ทำให้รู้สึกอยากอาหารน้อยลง ช่วยทำให้แคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวันลดลงส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงได้
โปรตีนที่บริโภคกันในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ โปรตีนจากสัตว์ (Animal-based protein) และโปรตีนที่สกัดได้จากพืช (Plant-based protein)
1. โปรตีนจากสัตว์ (Animal-based protein) คือ โปรตีนที่ได้จากสัตว์ เช่น ไข่ นม เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อปลา หรือแม้กระทั่ง Whey Protein
ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ในน้ำนมวัว มักนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเวย์โปรตีนชนิดผงสำหรับนักกีฬา และผู้ที่ชื่นชอบออกกำลังกายรับประทานเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
2. โปรตีนที่สกัดได้จากพืช (Plant-based protein) โปรตีนจากพืชตระกูลถั่ว ข้าวบางชนิด และธัญพืชชนิดต่าง ๆ เป็นโปรตีนทางเลือกสำหรับผู้ที่แพ้แลคโตสที่มีในน้ำนมวัว หรือเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโปรตีนทางเลือกที่มาจากพืช
เนื่องจากโปรตีนจากพืชมีข้อดีคือไม่มีแลคโตส เป็นโปรตีนที่ปราศจากไขมัน ย่อยง่าย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เช่น โปรตีน แร่ธาตุ วิตามินและกรดแอมิโนจำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด รวมไปถึงไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ แต่อย่างไรก็ตามโปรตีนจากพืชก็ยังคงมีข้อเสียเช่นกัน คือหากรับประทานโปรตีนจากพืชมากเกินไปอาจส่งผลทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายผิดปกติ เช่น มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องเสีย เป็นต้น หรือโปรตีนจากพืชบางชนิด เช่นโปรตีนจากถั่ว และถั่วเหลือง อาจมีกลิ่นถั่วซึ่งเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ปนมาด้วยทำให้ผู้บริโภคบางคนอาจไม่ชอบได้
โปรตีนจากพืชที่มีโปรตีนสูง
1. โปรตีนจากถั่วเหลือง (Soy protein) ถั่วเหลืองเป็นถั่วที่นิยมบริโภคกันมากชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีโปรตีนสูง และมีกรดแอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งนำไปทำเป็นเครื่องดื่มโปรตีนสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย และนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์แปรรูปเนื่องจากช่วยทำให้ส่วนผสมเกิดอิมัลชั่น ทำให้เนื้อเนียน แต่อย่างไรก็ตามโปรตีนจากถั่วเหลืองอาจมีกลิ่นถั่วซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพืชตระกูลถั่ว ซึ่งอาจแก้ไขโดยการเปลี่ยนไปใช้โปรตีนจากพืชชนิดอื่นที่กลิ่นน้อยกว่าได้ เช่น โปรตีนจากข้าว โปรตีนจากเมล็ดแฟล็กซ์ หรือโปรตีนจากเมล็ดฟักทอง เป็นต้น

2. โปรตีนจากถั่ว (Pea protein) โปรตีนถั่วจากถั่วลันเตาเป็นแหล่งโปรตีนที่ได้จากพืช มีลักษณะเป็นผงสีเหลืองหรือครีม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโปรตีนที่ไม่ทำให้อ้วน เนื่องจากไม่มีไขมันและคลอเรสเตอรอล และยังย่อยสลายได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับรับประทานโปรตีนจากสัตว์ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ พีโปรตีนประกอบด้วยกรดแอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย และยังมีกรดแอมิโน BCAA ซึ่งเป็นกรดแอมิโนที่สำคัญช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อรวมทั้งช่วยกระตุ้นโกรทฮอร์โมนที่ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน และสร้างกล้ามเนื้อ

3. โปรตีนจากถั่วชิกพี หรือถั่วลูกไก่ (Chickpea protein) ถั่วชิกพีเป็นพืชตระกูลถั่ว เป็นถั่วที่ให้โปรตีนสูง โดยถั่วชิกพี่ 170 กรัม จะให้โปรตีนประมาณ 15 กรัม นอกจากนี้แล้วโปรตีนจากถั่วชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย วิตามิน และแร่ธาตุ รวมทั้งธาตุเหล็ก โพแทสเซียม โฟเลต และแมกนีเซียม จึงถือว่าเป็นโปรตีนจากพืชคุณภาพสูง เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการโปรตีนจากพืช

4. โปรตีนจากเมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed protein) เป็นอีกโปรตีนทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการโปรตีนจากพืช เนื่องจากมีปริมาณโปรตีนเป็นองค์ประกอบมากถึง 18% อีกทั้งยังมีกรดแอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายเทียบเท่ากับโปรตีนที่สกัดได้จากถั่วเหลือง ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้โปรตีนจากถั่วหรือไม่ชอบกลิ่นของถั่วเช่นกัน

5. โปรตีนจากข้าว (Rice protein) โปรตีนจากข้าวเป็นโปรตีนมังสวิรัติที่แยกได้จากข้าว มักถูกใช้เป็นทางเลือกแทนเวย์โปรตีนซึ่งเป็นโปรตีนที่สกัดจากนม หรือโปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง เช่นเดียวกับโปรตีนจากเมล็ดแฟลกซ์โปรตีนจากข้าวเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นโปรตีนที่สกัดจากถั่ว สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ผสมกับน้ำ นม หรือเติมลงในสมูทตี้ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามโปรตีนจากข้าวนั้นมีกรดแอมิโนไลซีนค่อนข้างน้อย จึงมักนำไปผสมกับโปรตีนจากถั่วซึ่งมีกรดแอมิโนไลซีนสูง
6. โปรตีนจากเมล็ดฟักทอง (Pumpkin seed protein) เมล็ดฟักทองมีปริมาณโปรตีน 18 กรัมต่อ 1 ออนซ์ อีกทั้งยังมีกรดแอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายมีส่วนในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และยังประกอบด้วย BCAA ที่เป็นกกลุ่มของกรดแอมิโนที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และระบบภูมิคุ้มกัน

โปรตีนที่บริโภคกันในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ โปรตีนจากสัตว์ (Animal-based protein) และโปรตีนที่สกัดได้จากพืช (Plant-based protein)
1. โปรตีนจากสัตว์ (Animal-based protein) คือ โปรตีนที่ได้จากสัตว์ เช่น ไข่ นม เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อปลา หรือแม้กระทั่ง Whey Protein
ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ในน้ำนมวัว มักนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเวย์โปรตีนชนิดผงสำหรับนักกีฬา และผู้ที่ชื่นชอบออกกำลังกายรับประทานเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
2. โปรตีนที่สกัดได้จากพืช (Plant-based protein) โปรตีนจากพืชตระกูลถั่ว ข้าวบางชนิด และธัญพืชชนิดต่าง ๆ เป็นโปรตีนทางเลือกสำหรับผู้ที่แพ้แลคโตสที่มีในน้ำนมวัว หรือเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโปรตีนทางเลือกที่มาจากพืช
เนื่องจากโปรตีนจากพืชมีข้อดีคือไม่มีแลคโตส เป็นโปรตีนที่ปราศจากไขมัน ย่อยง่าย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เช่น โปรตีน แร่ธาตุ วิตามินและกรดแอมิโนจำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด รวมไปถึงไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ แต่อย่างไรก็ตามโปรตีนจากพืชก็ยังคงมีข้อเสียเช่นกัน คือหากรับประทานโปรตีนจากพืชมากเกินไปอาจส่งผลทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายผิดปกติ เช่น มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องเสีย เป็นต้น หรือโปรตีนจากพืชบางชนิด เช่นโปรตีนจากถั่ว และถั่วเหลือง อาจมีกลิ่นถั่วซึ่งเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ปนมาด้วยทำให้ผู้บริโภคบางคนอาจไม่ชอบได้
โปรตีนจากพืชที่มีโปรตีนสูง
1. โปรตีนจากถั่วเหลือง (Soy protein) ถั่วเหลืองเป็นถั่วที่นิยมบริโภคกันมากชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีโปรตีนสูง และมีกรดแอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งนำไปทำเป็นเครื่องดื่มโปรตีนสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย และนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์แปรรูปเนื่องจากช่วยทำให้ส่วนผสมเกิดอิมัลชั่น ทำให้เนื้อเนียน แต่อย่างไรก็ตามโปรตีนจากถั่วเหลืองอาจมีกลิ่นถั่วซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพืชตระกูลถั่ว ซึ่งอาจแก้ไขโดยการเปลี่ยนไปใช้โปรตีนจากพืชชนิดอื่นที่กลิ่นน้อยกว่าได้ เช่น โปรตีนจากข้าว โปรตีนจากเมล็ดแฟล็กซ์ หรือโปรตีนจากเมล็ดฟักทอง เป็นต้น

2. โปรตีนจากถั่ว (Pea protein) โปรตีนถั่วจากถั่วลันเตาเป็นแหล่งโปรตีนที่ได้จากพืช มีลักษณะเป็นผงสีเหลืองหรือครีม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโปรตีนที่ไม่ทำให้อ้วน เนื่องจากไม่มีไขมันและคลอเรสเตอรอล และยังย่อยสลายได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับรับประทานโปรตีนจากสัตว์ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ พีโปรตีนประกอบด้วยกรดแอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย และยังมีกรดแอมิโน BCAA ซึ่งเป็นกรดแอมิโนที่สำคัญช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อรวมทั้งช่วยกระตุ้นโกรทฮอร์โมนที่ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน และสร้างกล้ามเนื้อ

3. โปรตีนจากถั่วชิกพี หรือถั่วลูกไก่ (Chickpea protein) ถั่วชิกพีเป็นพืชตระกูลถั่ว เป็นถั่วที่ให้โปรตีนสูง โดยถั่วชิกพี่ 170 กรัม จะให้โปรตีนประมาณ 15 กรัม นอกจากนี้แล้วโปรตีนจากถั่วชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย วิตามิน และแร่ธาตุ รวมทั้งธาตุเหล็ก โพแทสเซียม โฟเลต และแมกนีเซียม จึงถือว่าเป็นโปรตีนจากพืชคุณภาพสูง เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการโปรตีนจากพืช

4. โปรตีนจากเมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed protein) เป็นอีกโปรตีนทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการโปรตีนจากพืช เนื่องจากมีปริมาณโปรตีนเป็นองค์ประกอบมากถึง 18% อีกทั้งยังมีกรดแอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายเทียบเท่ากับโปรตีนที่สกัดได้จากถั่วเหลือง ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้โปรตีนจากถั่วหรือไม่ชอบกลิ่นของถั่วเช่นกัน

5. โปรตีนจากข้าว (Rice protein) โปรตีนจากข้าวเป็นโปรตีนมังสวิรัติที่แยกได้จากข้าว มักถูกใช้เป็นทางเลือกแทนเวย์โปรตีนซึ่งเป็นโปรตีนที่สกัดจากนม หรือโปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง เช่นเดียวกับโปรตีนจากเมล็ดแฟลกซ์โปรตีนจากข้าวเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นโปรตีนที่สกัดจากถั่ว สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ผสมกับน้ำ นม หรือเติมลงในสมูทตี้ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามโปรตีนจากข้าวนั้นมีกรดแอมิโนไลซีนค่อนข้างน้อย จึงมักนำไปผสมกับโปรตีนจากถั่วซึ่งมีกรดแอมิโนไลซีนสูง
6. โปรตีนจากเมล็ดฟักทอง (Pumpkin seed protein) เมล็ดฟักทองมีปริมาณโปรตีน 18 กรัมต่อ 1 ออนซ์ อีกทั้งยังมีกรดแอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายมีส่วนในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และยังประกอบด้วย BCAA ที่เป็นกกลุ่มของกรดแอมิโนที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และระบบภูมิคุ้มกัน

MORE KNOWLEDGE

Milk permeate
มีกลิ่นหอมนม และรสชาติคล้ายกับนมผง แต่มีราคาที่ถูกกว่า สามารถนำไปใช้ทดแทนนมผงหรือหางนมผงได้ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยองค์ประกอบ และปริมาณโปรตีน และไขมันต่างกันอาจทำให้รสชาติ เนื้อสัมผัส และกลิ่นต่างจากการใช้นมผง
Read

Sucralose
มีลักษณะเป็นผงละเอียดสีขาว สามารถละลายน้ำได้ มีรสชาติที่คล้ายคลึงกับน้ำตาลทราย จึงสามารถนำมาใช้ทดแทนน้ำตาลทรายได้
Read

Capsicum Oleoresin
สารสกัดจากพริกที่มีชื่อว่า แคพไซซิน (capsaicin) ที่ให้ความเผ็ดร้อนช่วยทำให้เจริญอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น แก้หวัด ขับลม ช่วยสูบฉีดโลหิต ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ บำรุงธาตุ ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น
Read

Citric acid
ใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ใช้ในผลิตภัณทำความสะอาดพื้นผิว และใช้เป็นสารปรุงแต่งกลิ่นรสอาหาร
Read

Probiotic (Lactobacillus)
จุลินทรีย์ขนาดเล็กชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์ มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ช่วยดูดซึมอาหาร ป้องกันโรค สังเคราะห์วิตามิน ที่จำเป็นต่อร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
Read

Vitamin
มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมและการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตทำให้ผิวสุขภาพดี เรียบเนียน ลดรอยจุดด่างดำและมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวสวยขึ้น
Read

Goat whole milk powder
นมแพะเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีนที่ย่อยง่ายกว่านมวัวเนื่องจากมีการจัดเรียงตัวของกรดอะมิโนที่ต่างจากนมวัว
Read

Sodium caseinate
โซเดียมแคซิเนตนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์นม และไอศกรีม ด้วยมีคุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี มีผลทำเกิดความข้นหนืด และเกิดอิมัลชัน
Read

Pea protein
มีลักษณะเป็นผงสีเหลืองหรือครีม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโปรตีนที่ไม่ทำให้อ้วน เนื่องจากไม่มีไขมันและคลอเรสเตอรอล และยังย่อยสลายได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับรับประทานโปรตีนจากสัตว์
Read

Vitamin B5
มีส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยสลายไขมันและคาร์โบไฮเดรตจากการรับประทานอาหารให้กลายเป็นพลังงานและช่วยบำรุงผิว
Read